counters
hisoparty

The love of our lives… คุณพลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์ และ คุณชาญเดช สัจจาไชยนนท์

1 year ago

 

          ต้อนรับปีกระต่ายทอง ด้วยกลิ่นอายแห่งความรักที่ถูกถ่ายทอดลงบนภาพแฟชั่นเซ็ตปกในฉบับนี้ ก่อนอื่น HiSoParty ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ คู่รักที่กำลังเข้าสู่ประตูวิวาห์ในเร็ววันนี้ ในโอกาสที่ทั้งคู่ได้ให้เกียรติมาร่วมถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตปกเป็นฉบับแรก คุณแป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์ และ คุณเหยา-ชาญเดช สัจจาไชยนนท์ พร้อมทั้งได้สวมใส่เครื่องประดับเพชรจาก Beauty Gems ที่ยิ่งขับเน้นให้ภาพถ่ายในครั้งนี้งดงามและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ความรู้สึกที่ได้มาถ่ายแฟชั่นในครั้งนี้..
          “ดีใจค่ะ แล้วก็ตื่นเต้นด้วยเพราะนี่เป็นปกแรกของแป้ง ซึ่งพิเศษมากๆ ที่ได้มาถ่ายในคอนเซ็ปต์ชุดแต่งงาน และแป้งยังได้หยิบชุดในวันแต่งงานมาร่วมถ่ายแฟชั่นครั้งนี้ด้วย”

เรื่องราวของแต่ละชุด..
          “จริงๆ ชุดที่นำมาถ่ายวันนี้จะไม่ใช่ชุดที่ใช้ในวันแต่งงานทั้งหมดค่ะ จะมีชุดแต่งงานที่แป้งใช้จริงอยู่ 1 ชุด เป็นของแบรนด์ Elie Saab คือชุดนี้เป็นชุดที่เห็นปุ๊บแล้วลองเลย และก็ตัดสินใจซื้อทันที เพราะรู้สึกว่าเป็นชุดที่ตอบโจทย์ตัวเองทุกอย่าง ซึ่งแป้งจะเก็บไว้ใช้ในช่วงวันงานตอนเช้า สำหรับงานตอนเย็นจะมีอีกหนึ่งชุดแต่แป้งไม่ได้นำมาถ่าย เพราะอยากให้ทุกคนตื่นเต้น ไม่อย่างงั้นก็จะกลายเป็นว่าทุกคนเห็นชุดหมดแล้ว ในส่วนของชุดอื่นๆ จะเป็นชุดจากแบรนด์ L’Astelle Bangkok แบรนด์เดียวกับที่แป้งใช้ใส่ในวันหมั้นค่ะ”

ความรู้สึกในฐานะที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวป้ายแดงในเร็ววันนี้(วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566)
          “ถ้าถามว่าตื่นเต้นมั้ย ก็ไม่เชิงตื่นเต้นนะคะ แต่มันกลายเป็นว่าไปโฟกัสกับอีกมุมนึงเลย เพราะการแต่งงานเราใช้แรงค่อนข้างเยอะเหมือนกันในการเตรียมงาน ซึ่งตอนแรกแป้งเคยคิดว่าสบายๆ เป็นการแต่งงานของคนสองคนที่ตัดสินใจแต่งงานด้วยกัน แต่เราลืมคิดไปว่ามีรายละเอียดอะไรเยอะมากๆ บวกกับการที่แป้งเป็นคนที่ชอบความเนี้ยบ เป็นพวก Perfectionist คือจะชอบทำอะไรเอง จัดการงานเองทุกอย่างกลายเป็นว่าเหนื่อยกว่าที่คิด เพราะว่าถ้าเป็นคนอื่นๆ อาจจะใช้ Wedding Planner ให้เตรียมงานทั้งหมด ซึ่งจริงๆ ในส่วนของแป้งก็มีใช้นะคะ แต่ว่าเราก็ได้ทำงานไปด้วยกับเขา จัดการรายละเอียดต่างๆ ไปด้วยตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ ถ้าเราไม่มีเขาเราก็อาจจะเหนื่อยกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วสุดท้ายจะมาจบที่การตัดสินใจของเราเองทุกอย่าง ก็มีทั้งความสนุกแล้วก็เหนื่อยไปพร้อมๆ กันค่ะ”

คอนเซ็ปต์ของงาน..
          “ขอเริ่มเล่าจากสเกลงานก่อนเลย เพราะแป้งเชื่อว่าทุกคนจะคิดว่างานแป้ง ต้องมีคนเยอะ ต้องมีแขกเต็มไปหมดเลย ต้องเป็นงานยิ่งใหญ่ เพราะอาจจะด้วยภาพที่เราเป็นคนแบบเยอะๆ (หัวเราะ) ต้องบอกว่าจริงๆ แป้งเป็นคนที่มีเพื่อนไม่ได้เยอะขนาดนั้น คือกลายเป็นว่ามีคนรู้จักเยอะก็จริง รู้จักคนนั้นคนนี้เยอะ ออกงานเจอคนเยอะก็จริง แต่ถ้าถามว่าคนที่เป็นเพื่อนเราจริงๆ มันน้อยมาก และเรารู้สึกว่า ณ โมเม้นต์นั้นเราก็อยากได้คนที่เราหันไปเจอแล้ว เรารู้ว่าเขาคือใคร และเขาก็รักเรา เพราะฉะนั้นสเกลงานจะไม่เชิงใหญ่มากหรือเล็กมากเกินไป มันจะอยู่ในช่วงกลางๆซึ่งในพิธีของช่วงงานหมั้นจะมีแค่ครอบครัว 50 คน แล้วก็จะมีเพื่อนเจ้าบ่าวเพื่อนเจ้าสาวแค่นั้นแล้วมีกินเลี้ยงกัน จะมีเพื่อนสนิทแค่นิดหน่อย ในส่วนของงานเย็นจะเป็นค็อกเทล ช่วงนี้คนจะมาเยอะกว่าช่วงเช้า เราเชิญคนที่เรารู้สึกว่า เรารักและเคารพมาร่วมงานในเย็นวันนั้นด้วยค่ะ“สำหรับธีมงาน ต้องขอย้อนไปตอนที่ถูกขอแต่งงานค่ะ คือแป้งถูกขอแต่งงานที่อิตาลี ทะเลสาบโกโม (Lake Como) ทำให้อยากได้ธีมงานที่ให้ความรู้สึกเหมือนสถานที่ที่นั่น ซึ่งจริงๆ เราก็อยากแต่งงานที่นั่นนะ แต่ด้วยความที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยจะให้ไปจัดที่นั่นก็คงค่อนข้างลำบากคนอื่นๆ จึงใช้กลิ่นอายจากสถานที่เข้ามาซึมซับเป็นธีมในงานค่ะ”

สิ่งที่คุณแป้งประทับใจในตัวเจ้าบ่าว..
          “คุณเหยาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากค่ะ บางคนจะคิดว่าคนที่เสมอต้นเสมอปลายแปลว่าเขาจะไม่ดีขึ้นรึเปล่า จริงๆ สำหรับแป้งคือดีขึ้น แต่เป็นการดีขึ้นในเลเว่ลที่จะอยู่ด้วยกัน เรามีความรู้สึกว่ามันเข้ากัน คือเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แป้งอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด ซึ่งเรามีคุยกันตลอดว่าเอาเข้าจริงในชีวิตคนเราอาจจะไม่สามารถเจอคนๆ นั้นได้อยู่แล้ว คือเราทั้งคู่จะชอบคุยกันแบบ Realistically เหมือนเราสองคนอยู่กับความจริงว่า ความรักมันไม่ต้องเป็นอะไรที่เพอร์เฟคต์มาก มันไม่ควรจะต้องมีครบทุกอย่างสวยหรู หรือว่ามีความสุขตลอดเวลา ซึ่งพอเราคุยกันตรงนี้ เราพอเข้าใจกันได้ มันก็เลยแทบจะไม่มีอะไรที่จะทำให้ทะเลาะกัน หรือถ้าเกิดจะมีทะเลาะกันจริงๆ มันก็เกิดขึ้นน้อยมากๆ ค่ะ”

ROUTINE UPDATE..
          “ปัจจุบันแป้งยังคงทำงานอยู่ที่บริษัทของคุณป้าค่ะ (คุณดารณี อยู่วิทยา) ที่บริษัท Siam Winery ดูในเรื่อง F&B และในส่วนของ Marketing นอกจากนี้ก็ยังทำร้านดอกไม้ของตัวเอง ชื่อร้าน Branch and Blooms ที่จากตอนแรกทำเป็นงานอดิเรกในช่วง WFH จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังทำอยู่เรื่อยๆ ค่ะ”

แบ่งเวลาในการพักผ่อนและดูแลตัวเองอย่างไร..
          ถามว่าแป้งแบ่งเวลาในการพักผ่อนและดูแลตัวเองอย่างไร “จริงๆ จะบอกว่าแป้งเป็นคนที่ไม่ค่อยพักผ่อนเท่าไรเลยค่ะ อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แป้งเป็นคนนอนไม่ค่อยเยอะค่ะ เป็นคนไม่ชอบการนอน นี่เป็นข้อเสียของแป้งเลย ไม่ชอบนอนเพราะรู้สึกว่ามันเสียเวลา นอกจากแบบทำนั่นทำนี่จนเหนื่อยไปเอง จนถึงดึกๆ หน่อย เวลานอนจริงๆ ก็จะมีตีสามแทบทุกวันเลย และจะเป็นคนที่ตื่นเช้ามาก หลายคนก็จะงงว่า ไหวได้ยังไง แต่แป้งรู้สึกว่าแป้งไหว คุณเหยาเองยังบอกกับแป้งว่าถ้ามาอยู่ด้วยกันขอให้แป้งปรับเรื่องนี้ คือเรียกได้ว่าเป็นเรื่องเดียวที่คุณเหยาเขาขอให้เราปรับ นอกนั้นไม่เคยขออะไรเลย ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะขอนั่นนี่ แต่นี่คุณเหยาขอเราเรื่องเดียวเลยจริงๆ เขาบอก “เราขอให้เธอนอนเยอะกว่านี้หน่อยได้มั้ย” (หัวเราะ) แป้งก็เลยคิดว่าต้องเริ่มปรับแล้ว เพราะว่าการนอนสำคัญจริงๆ แต่โดยปกติเรื่องการดูแลตัวเอง แป้งจะมีออกกำลังกาย และพยายามเลือกทานอาหารดีๆ อยู่เสมอ แป้งก็เลยรู้สึกว่ามันน่าจะโอเคนะ มันยังไม่ได้แย่มาก เพราะเราไม่ได้เป็นคนเที่ยวดึกดื่นทุกวัน หรือไปเที่ยวแล้วไม่ยอมนอน จนไม่ดูแลตัวเองในด้านอื่นๆ เพราะจริงๆ แป้งดูแลตัวเองตลอดเวลา แต่แป้งจะมีเรื่องเดียวคือไม่ค่อยชอบนอนค่ะ”

เป้าหมายในปีนี้..
          “วางแพลนไว้ว่าหลังแต่งงานจะไปเที่ยวกับคุณเหยา ไปแบบว่าให้เอียนไปเลย ส่วนเรื่องมีลูก แป้งก็มีคิดไว้แล้วค่ะแต่หลังแต่งงานแป้งจะขอเที่ยวแบบยังไม่มีลูกก่อน เหมือนแบบว่าเรายังไม่ได้ใช้เวลา As a couple หลังแต่งงานกันจริงๆซึ่งแป้งเห็นหลายคนที่เป็นเพื่อนแป้ง พอแต่งงานแล้วมีลูกเลย แต่เขาก็ไม่ได้เศร้านะ เขาแฮปปี้ แต่แป้งรู้สึกว่าจริงๆ ในมุมแป้งก็ยังอยากใช้เวลาด้วยกันสองคนก่อน ก่อนที่จะมีอีกคนที่สำคัญในชีวิตเข้ามา ซึ่งแป้งรู้แน่ๆ ว่าถ้ามีมาปุ๊บ พวกเราจะไปโฟกัสที่เขาแน่นอน ก็เลยคุยกันไว้ว่าเราจะแพลนกันไว้ประมาณนี้ก่อนค่ะ”

คติที่ใช้ยึดถือในการดำเนินชีวิตมาโดยตลอด..
          “Life goes on คำนี้แป้งยึดไว้ตลอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น แป้งคิดว่า แป้งก็ต้องไปต่ออยู่ดี ไม่ว่าจะเครียดหรือมีอะไรเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดก็ตาม ซึ่งคุณพ่อแป้ง ท่านจะพูดเสมอเวลาเห็นเราเครียดว่า “ลูก..พรุ่งนี้ตื่นมาก็เช้าแล้ว” อันนี้คือเป็นสิ่งที่แป้ง
มีอยู่ในหัวตลอดตั้งแต่สมัยแป้งยังเรียนอยู่โรงเรียน ซึ่งเมื่อก่อนแป้งก็ยังงงนะ ว่าแปลว่าอะไรคือพอเราโตขึ้นเราถึงตกผลึกกับคำนี้ เหมือนแบบว่าพอเราตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็เริ่มต้นใหม่อยู่ดี ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย คือเราอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องเครียด หรืออยากจะเศร้าอะไรก็ได้ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มีอีกวันนึงที่มีอะไรให้เราทำอีกตั้งเยอะแยะ”

Photo By : Prayuth
Author By : Aunnkanta.C

SHARE