counters
hisoparty

แกร็บเผยเทรนด์ ‘การเรียกรถ’ และ ‘ฟู้ดเดลิเวอรี’ ปี 2025 ชี้ ‘เทวาลัยพระพิฆเนศ’ มาแรง ‘ส้มตำ–ชาเย็น’ ครองใจคนไทย

3 hours ago

           แกร็บ ในฐานะแพลตฟอร์มบริการเรียกรถและฟู้ดเดลิเวอรีชั้นนำของประเทศไทย เผยเทรนด์พฤติกรรมการใช้งาน ‘ที่สุดแห่งปี 2025’ ที่สะท้อนทั้งภาพการเดินทาง การท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์การกินของผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยตลอดปีที่ผ่านมา ‘เทวาลัยพระพิฆเนศ’ บริเวณสี่แยกห้วยขวาง กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมแห่งใหม่ ด้วยยอดเรียกรถที่พุ่งสูงกว่า 678% ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการสูงสุด โดยช่วงโกลเด้นวีคมียอดใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบ 50% และ ‘นครนายก’ ขึ้นแท่นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่มาแรงที่สุดจากความสะดวกในการเดินทางและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยม ด้านบรรยากาศคอนเสิร์ตก็ยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเดินทาง โดยคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR ช่วยดันยอดเรียกรถไปยังสนามราชมังคลากีฬาสถานเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า

           ในฝั่งบริการเรียกรถ จุดหมายปลายทางยอดนิยมยังคงเป็นสนามบิน สถานีขนส่ง และห้างสรรพสินค้า โดยปีนี้ ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ ครองอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย MBK Center, ICONSIAM และสยามพารากอน ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมคือพระบรมมหาราชวัง ถนนข้าวสาร และย่านเยาวราช เทศกาลใหญ่ยังคงมีบทบาทสำคัญ เช่น ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ที่ยอดเรียกรถเติบโต 44% พร้อมกันนั้นบริการเรียกรถราคาประหยัดอย่าง GrabCar Saver และ GrabBike Saver เติบโตขึ้นกว่า 289% สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่า บริการจองรถล่วงหน้าเติบโตมากกว่า 50% และ Grab EV Rides เติบโตขึ้น 58% จากกระแสรถพลังงานไฟฟ้า

           ด้านฟู้ดเดลิเวอรี ‘ส้มตำ’ ยังคงครองตำแหน่งเมนูขายดีอันดับหนึ่งด้วยยอดสั่งกว่า 16 ล้านจานต่อปี ตามมาด้วย ‘ข้าวมันไก่’ ที่ได้รับแรงหนุนจากกระแสไวรัลต่างประเทศ และ ‘ลาบหมู’ ที่ยังคงเป็นเมนูยอดฮิต สำหรับฝั่งเครื่องดื่ม ‘ชาเย็นและชานมไข่มุก’ ครองอันดับหนึ่งด้วยยอดสั่งกว่า 11 ล้านแก้ว แซงหน้าอเมริกาโนเย็นที่ตกไปอยู่อันดับสาม ขณะที่ชาเขียวยังคงเติบโตต่อเนื่องจากกระแสมัทฉะฟีเวอร์

           ปี 2025 ยังเป็นปีของเมนูดาวรุ่ง ไม่ว่าจะเป็น ‘ชิโอะปัง’ ที่เติบโตขึ้นกว่า 36 เท่า ‘ชาองุ่นเคียวโฮ’ ที่เติบโตขึ้นกว่า 17 เท่า และ ‘แฮนด์โรล’ ที่มาแรงด้วยยอดสั่งเพิ่มขึ้นกว่า 300% สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์การกินที่สนุกและเข้าถึงง่าย เทรนด์ Collaboration Marketing ก็ยังคงสร้างสีสัน โดยโปรเจกต์ ‘Proudly, Made in Thailand’ จากแบรนด์ YOLK ที่ร่วมกับ 4 แบรนด์ดัง สามารถดันยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 48%

           อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญคือการกลับไปกินที่ร้าน ซึ่งเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยดีลร้านอาหารผ่านแอปได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะร้านบุฟเฟต์ ปิ้งย่าง และอาหารญี่ปุ่น โดย ‘Kanori Hand Roll Bar’ คือแบรนด์มาแรงแห่งปีด้วยยอดเติบโตมากกว่า 5 เท่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน โครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจร้านอาหาร โดยผู้บริโภคนิยมใช้ในช่วงมื้อกลางวัน และร้านยอดนิยมบนแพลตฟอร์มคือ ‘สยามกะเพราคาเฟ่ – บรรทัดทอง’ ที่มียอดขายสูงกว่าปกติถึง 14 เท่า

 

Author By : Arunlak

SHARE