counters
hisoparty

ชินดนัย อัครวงศ์วริศ : 22 Young Visionaries

11 hours ago

ทายาทนักธุรกิจผู้ผลิตพลาสติกพาเลทที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพขยายขีดความสามารถให้ตัวเอง เพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว เขาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดในทุกๆ ด้าน ทั้งวิชาการ ไปจนถึงงานเอนเตอร์เทนเมนต์ สามารถพูดได้ 4 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ จีนกลาง และ เกาหลี พร้อมขับเคลื่อนชีวิตไปสู่อนาคตตามกรอบของคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง ซึ่งเขาเชื่อว่า ‘ต้องมีความคิด และความชอบเป็นของตัวเอง’

ชีวิตวัยเด็ก
          ตอนมัธยมศึกษาผมเรียนที่ Harrow International School จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ King’s College London สำหรับตอนนี้ผมกำลังจะเรียนปริญญาโทที่ Imperial College London ด้าน Marketing Analytics เกี่ยวกับการตลาดสมัยใหม่ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของครอบครัว ทั้งทางฝั่งครอบครัวคุณพ่อที่ทำธุรกิจผลิตพลาสติกพาเลทบริษัท Winner Inter Plas และ ธุรกิจโรงแรมทางภาคใต้ของฝั่งครอบครัวคุณแม่ ซึ่งต้องคิดว่าในรุ่นของผมจะทำอย่างไรเพื่อต่อยอดธุรกิจในโลกปัจจุบัน เพราะความฝันของผมตรงกับสิ่งที่ครอบครัวอยากให้ทำอยู่แล้วครับ
          วัยเด็กของผมหลักๆ มี 3 เรื่องที่ทำคือ ‘เรื่องเรียน’ คุณแม่ค่อนข้างจริงจังเรื่องการเรียนของผมมาตั้งแต่เด็ก ให้ผมลองเรียนทุกอย่าง ตั้งแต่ คณิตศาสต์ ศิลปะ ดนตรี กีฬา จากนั้นค่อยมาดูว่าถนัดด้านไหน ชอบอะไรมากที่สุด จึงค่อยๆ โฟกัสไปทางด้านนั้น ที่ผ่านมาผมเคยไปออดิชันที่เกาหลี ถึงแม้ผลจะออกมาดี แต่ผมก็เลือกที่จะกลับมาเรียนต่อครับ ต่อมาคือ ‘เรื่องเพื่อน’ ผมค่อนข้างมีความ Extrovert มีสังคม มีเพื่อนเยอะ เป็นความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กของผม และสุดท้าย ‘เรื่องครอบครัว’ เราอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ ครอบครัวคนจีน มีอากง อาม่า พี่น้องสนิทกันค่อนข้างแน่นแฟ้นครับ
          ช่วงซัมเมอร์ส่วนใหญ่ผมก็จะไปฝึกงานที่บริษัทคุณพ่อ ค่อนข้างท้าทาย เพราะอาจจะยังเด็กอยู่ มีประสบการณ์การทำงานน้อย และทำให้รู้ว่าการก้าวเข้าไปสู่ชีวิตการทำงานจริง มันมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น การทำงานกับคนรอบข้าง ที่เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นใคร เราต้องเรียนรู้ว่าควรจะรับมือยังไง หรือแม้แต่การทำงานกับคนในครอบครัว ถ้าตัดเรื่องงานเขาคือญาติผู้ใหญ่ แต่พออยู่ในจุดของการทำงาน มันคนละมุมกัน เราต้องจัดการแบ่ง Personal Life ให้ได้ครับ
          ผมมีพี่ชายที่อายุห่างกัน 2 ปี เราสองคนค่อนข้างแตกต่างกัน พี่ชายจะค่อนข้างเงียบ มีโลกส่วนตัวสูง เป็นตัวของตัวเอง เรียนคนละมหาวิทยาลัยคนละประเทศ แต่ก็ยังให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน ผมถนัดในส่วนของทฤษฎี เรื่องหน้าบ้าน ส่วนพี่ชายถนัดในด้านปฏิบัติการลงมือทำ เรื่องหลังบ้าน เราจะค่อนข้างรู้ว่าบางอย่างจะต้องจัดการยังไงกันครับ

แรงบันดาลใจ
          ผมเกิดและเติบโตมากับการทำธุรกิจของครอบครัว เห็นคุณพ่อคุณแม่ทำงาน มีคุณปู่คุณย่ากับคุณตาคุณยายคอยซัพพอร์ต ด้วยความที่คลุกคลีมาตลอด มันก็เลยอาจจะเซฟความคิดของผม และเป็นแรงบันดาลใจทำให้ผมอยากเป็นเหมือนพวกท่าน ที่สามารถนำพาครอบครัวมาถึงจุดนี้ได้ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และอยากทำให้ได้แบบนั้นบ้างครับ

ในวัย 23 ปี อะไรคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด
          ผมคิดว่าเป็นการเรียนแบบจริงจังที่สุดในชีวิตนักเรียน เพราะเราต้องออกมาทำงานในโลกธุรกิจจริงๆ เลยอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดครับ

ความภูมิใจในตัวเอง
          ผมภูมิใจเรื่องการเรียนต่อปริญญาโทครับ ผมตั้งใจมาก พยายามยื่นไป 3 ที่ ผลออกมาคือติดทุกที่ ก่อนจะตัดสินใจเลือกก็ปรึกษากับคุณแม่ อย่างที่บอกไปว่าคุณแม่เป็นคนที่จริงจังเรื่องการเรียน เข้มข้นกับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งผมชอบนะ เพราะมันค่อนข้างผลักดันผมให้มาถึงจุดนี้ สุดท้ายผมตัดสินใจเลือกเรียนที่ Imperial College London เพราะรู้สึกว่าเป็นคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเหมาะสมกับผมที่สุด

จุดแข็งของตัวเอง
          ผมมองว่าตัวเองค่อนข้างทำหลายอย่างได้รอบด้าน อาจจะไม่ได้เก่งเท่าคนที่โฟกัสไปด้านเดียว แต่รู้สึกว่าเป็นหนึ่งในข้อดีของตัวเอง ผมเคยทำมาหลายอย่างในชีวิต คุณพ่อคุณแม่ก็ให้โอกาสในการได้ลองทำทุกอย่าง ทั้งเรื่องการเรียน การเล่นดนตรี การเล่นกีฬา หรืองานด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ก็เคยลองทำมาแล้ว ผมเลยเป็นคนค่อนข้าง Flexible มีทักษะและการปรับตัว ทุกๆ ปีที่เติบโตขึ้นก็อยากพัฒนาตัวเอง มองหาโอกาสจากหลายๆ ด้าน ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เพราะผมเชื่อว่าถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็จะทำได้ดีครับ  

มุมมองต่อคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง
          คนรุ่นใหม่ที่มีพลัง อันดับแรกเลยจะต้องมีความเป็นตัวเองสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง มีความชอบเป็นของตัวเอง ตั้งใจทำในสิ่งที่อยากทำ ผมรู้สึกว่าสิ่งรอบข้างมันเชฟให้เป็นแบบนี้ แต่เราเอาความเป็นตัวเองไปทำอะไรกับมันต่อ เพราะโลกปัจจุบันมีโอกาสมากมายยื่นมารอทุกคนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการคว้าโอกาสมันอาจจะง่ายกว่าสมัยก่อนในหลายๆ เรื่อง หากเรามีความคิดและความชอบเป็นของตัวเอง มันก็จะผลักดันให้เราสามารถคว้าโอกาสนั้นได้เอง

อยากให้คนจดจำว่าเป็นคนแบบไหน
          อยากให้คนจดจำว่าเราเป็นคนที่มี Impact ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อยากสร้าง Impact ในสิ่งที่ทำ อยากเปลี่ยนให้สิ่งที่ทำดีขึ้น

บุคคลต้นแบบ
          คุณพ่อคุณแม่ครับ สำหรับผมท่านเป็น Superman กับ Superwoman ของผมเลย ท่านช่วยซัพพอร์ตผมในทุกๆ เรื่องที่อยากทำ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องสังคม เหมือนท่านมีชีวิตอยู่เพื่อลูก ทำงานเพื่อลูก ผมก็เลยอยากเป็นแบบท่านเช่นกัน 

HiSoParty สำหรับคุณคือ
          ผมรู้สึกว่า HiSoParty มีความสนุกสนาน แล้วก็พยายามสร้างสรรค์ให้ร่วมสมัยอยู่ตลอด

Author By : Lady K.

SHARE