การทรานส์ฟอร์มธุรกิจถูกส่งต่อวิสัยทัศน์จากรุ่นบุกเบิกสู่นักบริหารเจนเนอเรชันใหม่ สำหรับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันไม้ต่อเดินทางมาถึงมือของ ‘คุณเยน - ธนโชติ บุญมีโชติ’ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกุ้ง ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่กำลังสนุกอยู่กับการบริหารความท้าทายด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งคุณเยนมีส่วนสำคัญในการสร้าง Role Model ด้านความยั่งยืนให้กลายเป็นบรรทัดฐานในการทำธุรกิจ ให้สามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
“ปัจจุบันผมดูแลธุรกิจกลุ่ม Frozen Seafood เป็นอาหารทะเลแปรรูปเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ นอกจากกุ้งก็ยังมีซีฟู้ดอื่น ๆ เช่น แซลมอน ปลาหมึก รวมทั้งสินค้านำเข้าต่างๆ อาหารพร้อมทาน และสแน็ค โดยผมมีหน้าที่ดูแลตั้งแต่การผลิต และ Marketing and Sales ในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงประเทศไทย ส่วนใหญ่ต้องเดินทางไปพบปะลูกค้าด้วยตัวเองทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่ผมต้องรับผิดชอบเป็นการดูแลภาพรวมขององค์กร เน้นการ Connect to Dot เรื่องการทำงานของแต่ละฝ่ายให้ความรับผิดชอบสอดคล้องกลมกลืนกัน ทุกฝ่ายมีจุดประสงค์ Objective และ Goal ไปในทิศทางเดียวกันสามารถทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร”
ในมุมของผู้นํารุ่นใหม่ อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนทีมและองค์กร
“ผมจะให้ความสำคัญกับหัวใจหลัก 4 ประการ คือ Trust การรับฟัง ความไว้วางใจ ไม่ใช่แค่กับลูกค้า แต่รวมถึงทีมงานภายในองค์กร ให้การสนับสนุน ทั้งในแง่ของการทำงาน และการเป็นที่พึ่งทางความรู้สึก ผมมองว่าเป็นคีย์หลักที่จะสร้าง Environment Working ที่ยั่งยืน รวมไปถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี, Transparency ต้องสื่อสารกันแบบโปร่งใสตรงไปตรงมา เพื่อให้เข้าใจกัน, Empowerment เน้นให้แต่ละคนกล้าตัดสินใจ มีอำนาจในการตัดสินใจ ถูกผิดไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ตัดสินใจ และสุดท้ายเลยก็คือ Growth Mindset การมีความคิดที่อยากจะเติบโตตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง ออกจากคอมฟอร์ทโซนไปลองทำสิ่งใหม่ เพื่อให้เกิดการพัฒนา และไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้”
มีวิธีการรับมือกับความท้าทาย ในการทำงานอย่างไร
“ความท้าทายในแต่ละปีไม่เหมือนกัน ยากง่ายต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือเรามีวิธีการปรับตัวอย่างไรกับสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมในขณะนั้น ความรวดเร็วในการปรับตัว ความเพียบพร้อม รวมไปถึงการหาโซลูชันสำหรับแก้ไขปัญหา การหาทางออกที่ดีที่สุด อาจจะไม่ได้คำตอบที่ดีที่สุด แต่เราก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ ฉะนั้นมุมมองในเรื่องของการ Improvement จึงเน้นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นหลัก”
ในวันที่งานหนักหรือมีแรงกดดันมากเป็นพิเศษ มีวิธีคิดหรือคำพูดใดที่ใช้กับตัวเองให้ก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้น
“Go with the Flow ผมมองว่าทุกปัญหามีทางออก ผมเลยกล้าตัดสินใจ เพราะการตัดสินใจผิดดีกว่าไม่ตัดสินใจอะไรเลย ใช้สติในการแก้ไขปัญหา ตรงนี้เป็นพอยต์ที่ค่อนข้างสำคัญ ผมไม่ค่อยจมอยู่กับปัญหา มันเหมือนเวลาที่อยู่ในบ่อโคลน ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจม ผมพยายามรีแลกซ์ อาจจะไปออกกำลังกาย หรือแฮงเอาท์กับเพื่อน การมีสุขภาพที่ดีมันทำให้สมองโปร่ง สามารถคิดอะไรได้มากขึ้น เพราะสิ่งที่เราต้องโฟกัสไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่ต้องพยายามให้กำลังใจทีม สร้างแรงบันดาลใจให้ทีม สร้างบรรยากาศให้กลับมาดีขึ้น กลับมามีเอนเนอร์จี้ที่ดี เพราะการทำงานที่ดีต้องมาจากความรู้สึกดีกับองค์กร รู้สึกดีกับเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งมีเป้าหมายที่ต้องยึดมั่นด้วยครับ”
การทำงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเล โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจกุ้ง มีจุดที่น่าสนใจหรือมีสิ่งใดที่แตกต่าง จากธุรกิจอื่นที่เคยผ่านมาอย่างไร
“เราดูแล Stakeholder และ Supply Chain ตั้งแต่ต้นต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คนที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่แค่โรงงาน แต่รวมถึงพนักงานนับหมื่นคนที่ทำงานอยู่ในเครือทั้งหมด ชุมชนที่อยู่รอบ ๆ โรงงาน เราช่วยพัฒนาให้ชุมชนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน และอื่นๆ รวมไปถึงกลุ่มเกษตรกร เราสนับสนุนให้ฟาร์มนับหมื่นฟาร์มมีธุรกิจที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะมีผลกับ GDP ยอดส่งออกต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ผมจึงมองว่าหัวใจของธุรกิจ ไม่ได้วัดจากผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่การทำอย่างไรให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงเกษตรกรที่เติบโตมากับเรา เป็นคู่ค้า เป็นพาร์ทเนอร์มากว่า 30-40 ปี ต้องคิดถึงใจเขาด้วยว่าจะทำอย่างไรให้เขาอยู่ได้แบบยั่งยืน และเติบโตไปกับกลุ่มอุตสาหกรรมนี้”
หากมองภาพรวมของตลาดในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่คุณให้ความสำคัญ และมีวิธีปรับตัวอย่างไร
“ถ้าย้อนไปประมาณ 20-30 ปีที่แล้ว การเข้าถึงข้อมูลค่อนข้างยาก เมื่อก่อนประเทศไทยเป็นผู้เล่นหลัก แต่หลังจากเกิดปัญหา EMS (Early Mortality Syndrome) ทำให้กุ้งตายแบบเฉียบพลัน จากผู้เล่นเบอร์ 1 กับการส่งออกไปอเมริกา ตอนนี้ตกไปเป็นเบอร์ 5 เบอร์ 6 ผมมองว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ ผลผลิตกุ้งลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง การปรับตัวจึงค่อนข้างสำคัญ เพราะเราไม่ใช่ผู้เล่นหลักอีกต่อไป จากที่ไม่ต้องทำอะไร สินค้าขายง่าย ราคาดี ราคาพุ่ง ลูกค้าเข้ามาหาเอง คู่แข่งน้อย ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน เวทีเดิมตลาดเดิม แต่ผู้เล่นเพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การแข่งขัน รวมไปถึงฐานลูกค้า ที่ยากขึ้นทุกปี แล้วจะปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดในแต่ละปีที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย ในฐานะที่เป็น Global Brand มีข้อดีข้อได้เปรียบในการได้เห็นเทรนด์ของหลายประเทศ ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เห็น Consumer Behavior ว่าเป็นอย่างไร เห็น Consumption ว่าผู้บริโภคสนใจสินค้าเป็นแบบไหน รวมทั้งช่องทางในการขายที่มีโอกาสเติบโต เพื่อนำมาบริหารจัดการในส่วนของไลน์การผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากที่ผ่านมาเราไดร์ฟธุรกิจจากตลาด ฉะนั้นการเข้าถึงข้อมูลตลาดของแต่ละประเทศจึงเป็นเรื่องจำเป็น และเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เราเห็นภาพในมุมกว้าง”
อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำงาน และอะไรที่ทำให้ยังรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน
“ตอนนี้เราดูภาพแบบ Global Company ความสนุกของการทำงานจึงอยู่ที่การคิดตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรให้บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมให้ได้ พอโฟกัสจุดนี้เราจึงต้องทำงานพร้อมกันหลายๆ เรื่อง ประกอบกับความท้าทายที่ต้องเจอในแต่ละปีไม่เคยเหมือนกันเลย การทำงานจึงไม่น่าเบื่อ ผมสนุกกับการปรับตัว สนุกกับการเจออะไรใหม่ๆ ทุกปี สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผมให้ความสำคัญที่สุดเลยก็คือ Benefit ของพนักงาน การมีผลประกอบการที่ดี ทุกคนร่วมมือกันเดินไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อส่งต่อกำลังใจและรอยยิ้มให้พนักงานด้วยการให้โบนัส ทุกคนเหนื่อยมาทั้งปี สิ่งที่ได้ก็ต้องคุ้มค่ากับความทุ่มเท ทำให้บริษัทเป็นองค์กรที่น่าจดจำสำหรับพนักงาน เพราะผมเชื่อว่า Business driven by People”
หากมองไปข้างหน้า มีเป้าหมายหรือสิ่งใดที่คุณอยากพัฒนาเพิ่มเติมทั้งในด้านตัวเองและในมุมขององค์กร
“ในแง่ของการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม เราจะทำอย่างไรให้เป็นตัวอย่างที่ดี และต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศ เป็นภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าแรกที่ทำเรื่อง Sustainability ทำเรื่อง Low Carbon ด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ รวมทั้งสร้างระบบเทคโนโลยีต่างๆ เรานำมาปรับปรุงในฟาร์ม เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะต่อไปจะไม่ได้ช่วยแค่เกษตรกรในการลดค่าไฟ แต่จะกลายเป็นโมเดลที่สามารถใช้ในอุตสาหกรรมได้ทั้งประเทศ เพื่อให้เกษตรกรไทย มีต้นทุนที่ลดลง ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น ความสามารถในการแข่งขันในแง่ของโรงงานก็จะมีมากขึ้นด้วย ฉะนั้นต้องไดร์ฟตั้งแต่ต้นน้ำ โรงงานของเราทำเรื่อง Cost saving ภายใน ยกตัวอย่าง แผงโซล่าเซลล์ สามารถลดค่าไฟได้ โดยวัดจากค่า Carbon Emission ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ลูกค้าเจ้าใหญ่ๆ และตลาดอเมริกาให้ความสนใจค่อนข้างเยอะ ทั้งหมดเป็นการพัฒนาในแง่ขององค์กร ถ้าเป็นในแง่ส่วนตัว ผมมีเป้าหมายในการพัฒนาตัวเองตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปครับ”
การทำธุรกิจให้เติบโต ควบคู่ไปกับเรื่อง Sustainability ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมควรเดินไปด้วยกันอย่างไร
“ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange 2030 เราวางงบประมาณไว้ 7,200 ล้านบาท หรือกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเท่ากับกำไรสุทธิที่บริษัทได้รับในปี 2565 เรานำมาทุ่มให้กับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนในโปรเจกต์ SeaChange 2030 ยาวไปจนถึงปี 2573 เราจัดตั้งหน่วยงานดูแลด้านความยั่งยืนขึ้นมาโดยเฉพาะ มีโปรเจกต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจของไทยยูเนี่ยน เพื่อการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจด้วยความยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมทั้งหมด ทั้งไซเคิลของธุรกิจ ดูแลทั้ง Whole Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทุกจุด ผมมองว่าเป็นคีย์หลักที่ลูกค้าให้ความสนใจไทยยูเนี่ยน”
ความหมายของคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ในความเชื่อของคุณ
“ความสำเร็จถ้าวัดจากตัวบริษัทอยู่ที่การทำให้ผลประกอบการทางธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้อง มีความสม่ำเสมอ ปัจจัยภายนอกเราควบคุมได้ยาก แต่ปัจจัยภายในองค์กรเราสามารถควบคุมได้ สิ่งสำคัญที่สุดจึงเป็นเรื่องคน ทำอย่างไรให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ทำอย่างไรให้พนักงานมี Growth Mindset โดยเราจะยึดจาก Company 6 Value ประกอบด้วย Passion, Humble, Respectful, Responsible, Collaborative และ Innovation ซึ่งเป็น Core Value ของไทยยูเนี่ยน ที่เราพยายามทำให้ทุกคนมี Mindset ที่เหมือนกัน”
ปัจจุบันบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครองอันดับ 1 The Dow Jones Sustainability Indices เรื่องซีฟู้ด มาถึง 3 ปี ช่วยตอกย้ำความพร้อมในการก้าวขึ้นสู่การเป็น Global Company ได้อย่างยั่งยืน
Photo By : PhumkiatAuthor By : Ouamporn Donsingha