เมื่อถนนพระราม 1 ใจกลางสยามแปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้งแห่งความหวัง เสียงปรบมือและธงหลากสีโบกสะบัดท่ามกลางบรรยากาศของความเท่าเทียมและการเฉลิมฉลอง ‘บางกอกไพรด์พาเหรด’ ขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นไฮไลต์ของงาน ‘Bangkok Pride Festival 2025’ ได้ปลุกกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายที่เปล่งประกายบนเวทีโลกอย่างแท้จริง
มหกรรมแห่งความภาคภูมิใจในปีนี้จัดขึ้นตลอดเดือนมิถุนายน โดย องค์กรบางกอกไพรด์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร พร้อมผนึกกำลังเหล่าคอมมูนิตี้ กลุ่มองค์กรอิสระ และพันธมิตรจากทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดย กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และไอซีเอส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเทศกาลนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งคว้ารางวัลชนะเลิศ ‘Pride Value of Business Campaign’ จากเวที Bangkok Pride Awards 2025 ไปครอง
พิธีเปิดเทศกาลจัดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน ก่อนจะเข้าสู่กิจกรรมไฮไลต์สำคัญอย่าง ‘Bangkok Pride Parade’ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ที่ปูทางด้วยธงสีรุ้งขนาดมหึมา และ ‘ธงอัตลักษณ์’ ที่ทอดยาวตลอดถนนพระราม 1 เปรียบดังสัญลักษณ์แห่งความเท่าเทียมและการยอมรับในทุกความแตกต่าง
งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและร่วมเดินขบวน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี อาทิ คุณสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คุณจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, และ คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้แก่ คุณศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคุณอรรณว์ ชุมาพร ประธานคณะทำงานบางกอกไพรด์ รวมถึงคณะทูตานุทูตจากหลากหลายประเทศ, คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์–สตอเร่ ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจำประเทศไทย, และภาคเอกชน อาทิ คุณสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด พร้อมด้วยเครือข่ายคอมมูนิตี้ LGBTQIAN+ และผู้มีความหลากหลายทางเพศจากทั่วโลกที่พร้อมใจกันเดินเคียงข้างกันอย่างภาคภูมิ
ขบวนพาเหรดในปีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเฉลิมฉลองความหลากหลาย แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงพลังแห่งความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม ที่ร่วมกันสร้างจุดยืนใหม่ให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็น ‘Global Festival at Global Destination’ ที่พร้อมต้อนรับทุกความเป็นไปได้และทุกตัวตนจากทั่วโลก