counters
hisoparty

Peacefully Punakha

3 years ago

           พูนาคา (Punakha) แห่งภูฏาน (Bhutan) คือเมืองสวยสงบที่อยู่ในชัยภูมิห้าดาว เพราะตั้งอยู่บนทำเลที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำโม กับแม่น้ำโพ กลายเป็นแม่น้ำพูนาจาง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของภูฏาน

           จากเมืองหลวงอย่างทิมปูไปพูนาคาระยะทางแค่ประมาณ 80 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ถนนตัดตรง และพื้นราบ จึงเป็นของหายากบนแผ่นดินภูฏาน โชคดีระหว่างทางมีป่าเขาลำเนาไพรอันอุดมสมบูณ์ให้บริโภควิวกันตลอดทาง แถมมีจุดให้แวะพักที่ดอร์ชูลา พาสด้วย ตลอดทางเลยไม่น่าเบื่อ

           บริเวณจุดชมวิวดอร์ชูลา พาสมีวิวสวยๆ จากเทือกเขาหิมาลัยเอาไว้ให้แขกเหรื่อของภูฏานได้แวะชมกัน  ถ้าไปช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นฤดูหนาว ฟ้าจะเปิดเป็นใจให้เห็นทิวเขาหิมะลอยละล่องคลอเคลียกับเมฆอย่างดงาม    

           บริเวณนั้นยังมีสถูปอีก 108 องค์ ตั้งเรียงรายสถูปใหญ่อยู่บนเนินเขาแห่งนี้อีกด้วย ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อราวๆ 7 ปีที่ผ่านมา ราชินีแห่งภูฏานตั้งใจสร้างขึ้นตามคำอธิษฐานของเธอที่ว่าหากกษัตริย์แคล้วคลาดจากอันตราย และสามารถเอาชนะข้าศึกที่มารุกรานได้สำเร็จ รวมถึงปกป้องแผ่นดินภูฏานให้พ้นจากเงื้อมมือศัตรู จะสร้างสถูปขึ้น

           ละแวกนั้นยังเต็มไปด้วยริ้วธงมนตราหลากสีโบกสะบัดพัดพริ้ว ธงพวกนี้ชาวบ้านเขาใช้เป็นเครื่องบูชาเจ้าป่าเจ้าเขา ดูแล้วช่างเป็นบรรยากาศที่กึ่งเข้มขลังกึ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไงไม่ทราบ แต่สำหรับชาวเมือง นี่คือสถูปที่จะช่วยคุ้มครองให้ผู้ที่ผ่านไปมาบนเส้นทางสายนี้ปลอดภัย

           เมื่อมาถึงพูนาคา จะพบว่านี่คือเมืองเนื้อหอมสุดๆ เวลาฤดูหนาวมาทักทายภูฏาน เพราะที่นี่จะค่อนข้างอบอุ่นกว่าเมืองอื่นๆ ทั้งพระและผู้คนจึงพากันอพยพหนีหนาวมาพึ่งไออุ่นของพูนาคากัน 

           แต่ถึงจะหนาวแค่ไหนที่ตลาดเช้าประจำเมืองก็ไม่เคยอัตคัตสีสัน สงสัยเป็นเพราะตลาดนัดมีแค่สัปดาห์ละวัน ทุกเช้าวันเสาร์ผู้คนเลยมาซื้อข้าวปลาอาหารกันแน่นตลาด ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้ ที่บ้านใครปลูกผักหรือผลไม้อะไรก็หอบหิ้วมาวางขายกัน

           ที่โดนใจที่สุดก็เป็นกระบุงตะกร้าที่ชาวบ้านเขาหอบหิ้วมาจ่ายตลาด ถุงพลาสติกกลายเป็นของแปลกแยกของที่นี่ และแทบจะไม่เห็นใครหิ้วเลยด้วยซ้ำ ใครช้อปอะไรจ่ายอะไรก็ยัดลงกระบุง 

           พูดถึงผู้คนต้องบอกว่าวคนที่นี่เขาดูมีความสุขกันจริงๆ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และอารมณ์เบิกบาน ดูเหมือนจะเป็นของหาง่ายของที่นี่ ก็น่าจะมีความสุขอยู่หรอก อากาศก็ดี  วิวทิวทัศน์ก็สวย แถมผู้คนเขาใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย  มีจังหวะชีวิตที่เนิบช้า เด็กเรียนฟรี รักษาพยาบาลก็ฟรี  กินเล่บอกว่าคนที่นี่เขาหาความสุขจากสิ่งรอบตัว ไม่ดิ้นรนไขว่คว้าในสิ่งที่เกินตัว ก็เลยหาความสุขได้ง่าย 

          พยานหลักฐานชั้นดีที่ยืนยันได้ว่าพูนาคาเป็นแบบสวยสงบคือ พูคาคา ซอง (Punakha Dzong) สถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนยกให้เป็นไฮไลท์ของพูนาคา ที่แม้แต่คนภูฏานเองก็บอกว่านี่คือซองสวยที่สุดในภูฏาน

          พูคาคา ซอง สถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนยกให้เป็นไฮไลท์ของพูนาคา ที่นี่จัดว่าเป็นซองที่ใหญ่แห่งหนึ่งและคนภูฐานเองก็บอกว่านี่คือซองที่สวยที่สุดในภูฏาน

          แต่ก่อนจะเข้าซองเป็นธรรมเนียมของชาวภูฏาน ที่เขาต้องใส่ผ้าพันกันก่อน ของฝ่ายชายเขาเรียกว่ากั๊บเน่  ส่วนฝ่ายหญิงเขาเรียกว่าราชู ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปก็ห้ามใส่ผ้าพันคอ แว่นตา และหมวกเข้าซอง

          มาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าซองเนี่ยในอดีตเป็นป้อมปราการที่มีไว้ป้องกันการรุกรานจากศัตรู แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการประจำท้องถิ่นในเขตนั้นๆ และส่วนหนึ่งของซองยังเป็นวัดด้วย เรียกว่าในรั้วเดียวกันมีทั้งโซนที่มีไว้ว่าราชการและโซนที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา  

          ที่พูนาคาซองถือว่าชัยภูมิห้าดาว ตั้งอยู่บนทำเลที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกัน จะเข้าซองแห่งนี้ต้องปีนบันไดอันสูงชันขึ้นไป แต่พอขึ้นไปถึงก็คุ้มค่า เพราะด้านในมีวัดเล็กวัดน้อยและโบสถ์อีกกว่า 20 แห่งซ่อนอยู่ แต่จุดสำคัญคงเป็นโบสถ์ที่เก็บอัฐิของซับดรุง งาวัง นัมกัล ผู้สร้างซองแห่งนี้ขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 และจุดที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ซับดรุง งาวังนัมกัลป์นำมาจากทิเบต แต่เขาไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

          ปกติที่นี่จะมีพระจำวัดอยู่ประมาณ 200 รูป แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว พระจากซองเมืองอื่นๆ จะอพยพหนีหนาวตามเจ เคมโป ผู้ซึ่งเปรียบเหมือนสังฆราชของภูฐานมาจำวัดที่นี่ เพราะพูนาคาเป็นเมืองที่ค่อนข้างอบอุ่น

          พูนาคาซองมีตำนานที่เล่าขานกันว่า กูรู รินโปเช ได้เดินทางมาเจอสถานที่บริเวณนี้ช่วงศตวรรษที่ 8 และได้พยากรณ์ว่าในอนาคตจะมีชายชื่อนัมเกลมาสร้างซองขึ้นตรงนี้ กระทั่งเมื่อเกือบ 400 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่ภูฏานยังเต็มไปด้วยแคว้นต่างๆ เป็นยุคที่มีการรุกรานแย่งชิงการปกครอง  พระลามะอย่าง งาวัง นัมกัลผู้มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในครอบครอง  ก็ถูกไล่ล่าและถอยร่นมาจนถึงบริเวณนี้ เมื่อจวนตัวจึงออกอุบายถือพระบรมสารีริกธาตุของปลอมเอาไว้ในมือ ส่วนของจริงซ่อนไว้ที่ชายแขนเสื้อ และเขวี้ยงของปลอมลงในน้ำ ลวงพวกศัตรูที่พากันกระโจนลงไปงมหากันจ้าละหวั่น จนถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากกลืนชีวิตไปไม่น้อย

         หลังมีชัย งาวัง นัมกัลก็สร้างซองขึ้นบริเวณนี้ จากนั้นก็ค่อยๆ ผนึกภูฏานให้เป็นปึกแผ่น และให้พูนาคาเป็นเมืองหลวง ภายในซองแบ่งเป็นหลายส่วน ซึ่งก็อุดมไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม นี่ขนาดโดนทั้งไฟไหม้ น้ำท่วมและแผ่นดินไหว แต่ก็ได้รับการบูรณะให้กลับมาเป็นซองที่สวยสง่าอยู่ริมเส้นเลือดใหญ่ของภูฏาน

         ถ้าคำว่าสวรรค์ในนิยามของคุณ คือแผ่นดินอันแสนสงบที่ซุกตัวอยู่ในหุบเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่ ทนุถนอมธรรมชาติอันทรงพลังเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ซ่อนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนเอาไว้ทุกอณู และเป็นดินแดนที่ไม่เคยแห้งแล้งศรัทธาของผู้คน ภูฏานก็คงจะเป็นสวรรค์ได้เหมือนกัน

Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง

SHARE