counters
hisoparty

The Art of Luxury Trading เปลี่ยนแบรนด์เนมเป็นโอกาส - คุณกุลนิดา ธานีโต

5 hours ago

          ในโลกของสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการแข่งขัน การสร้างความไว้วางใจจากลูกค้าคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ‘I Love You Brandname by PreePree’ คือหนึ่งในธุรกิจที่โดดเด่นในวงการนี้ ด้วยแนวคิดที่แตกต่างและมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจนี้คือ ‘คุณอิง - กุลนิดา ธานีโต’ หญิงสาวที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่สามารถสร้างอาณาจักรการซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้อย่างมั่นคง

          จากจุดเริ่มต้นของการเป็นแม่ค้ามือสมัครเล่น สู่การเป็นนักธุรกิจที่เชี่ยวชาญในวงการแบรนด์เนม คุณอิงได้ใช้ประสบการณ์และความรักในอาชีพเป็นพลังผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ในบทสัมภาษณ์นี้ เธอจะมาแบ่งปันเรื่องราวเส้นทางธุรกิจ มุมมองต่อสินค้าแบรนด์เนม พร้อมทั้งแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ

          “ปัจจุบันอิงดำเนินธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับการรับซื้อและรับฝากขายสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงเพชร เครื่องประดับ และนาฬิกาแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อเพจ I Love You Brandname by PreePree ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการไลฟ์ขายสินค้า โดยอิงจะไลฟ์ประมาณสัปดาห์ละ 3 วัน ได้แก่ วันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ เพื่อนำเสนอสินค้าต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชม โดยแต่ละครั้งจะมีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งกระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับ หรือสินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ ที่ลูกค้าสนใจ”

สินค้าแบบไหนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด?
          “สินค้าแบรนด์เนมได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นแฟชั่นที่ไม่มีวันตาย และยังสามารถเก็บสะสมหรือใช้เป็นสินทรัพย์ได้ อิงมองว่าสินค้าทุกประเภทสามารถขายได้ หากมีความเข้าใจในตลาดและรู้ว่ากลุ่มลูกค้าต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับ หรือรองเท้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและกระแสของตลาด ถ้าให้ระบุว่าชิ้นไหนตอบยากมาก เพราะสำหรับอิงถ้าเป็นสินค้าแบรนด์เนมนั้นขายได้ทุกอย่างค่ะ”

การประเมินราคาสินค้าแบรนด์เนม เพชร ทอง และนาฬิกา มีเกณฑ์อย่างไร?
          “สำหรับทองคำ ราคาจะถูกกำหนดตามราคาตลาด ซึ่งอิงจะประเมินจากน้ำหนักทอง ราคาทองคำ ณ วันนั้น และประเภทของทอง เช่น ทอง 18K หรือ 24K ส่วนเครื่องประดับเพชร นอกจากราคาตลาดกลางแล้ว ยังต้องพิจารณาคุณภาพของเพชร เช่น สี น้ำหนัก ความสะอาด การเจียระไน รวมถึงตัวเรือนที่ใช้ประกอบ ไม่ได้ดูแค่เพชรเพียงอย่างเดียว แต่อิงจะพิจารณามูลค่าของเครื่องประดับโดยรวม ซึ่งเป็นเหตุผลที่ลูกค้าหลายคนเลือกมาขายกับร้านอิง เพราะอิงให้ราคาตามคุณค่าของสินค้าทั้งชิ้น ไม่ใช่แค่ราคาทองหรือเพชรที่ถูกแยกออกมา สำหรับแบรนด์เนม ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพสินค้า รุ่น ความนิยมในตลาด ราคาขายมือหนึ่ง และราคาขายมือสองทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอิงจะพิจารณาทั้งตลาดไทยและต่างประเทศเพื่อนำมาประเมินราคาให้ลูกค้า หากเป็นสินค้าหายากหรือรุ่นพิเศษ ราคาก็จะสูงขึ้นตามความต้องการของตลาด ในส่วนนาฬิกา ราคาจะขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพสินค้า และความนิยมของนักสะสม บางรุ่นมีราคาสูงขึ้นตามระยะเวลาเพราะเป็นที่ต้องการมากกว่าจำนวนสินค้าที่มีในตลาด การประเมินราคาต้องดูแนวโน้มของตลาดและข้อมูลการซื้อขายล่าสุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับราคาที่ยุติธรรม”

คุณอิงมีเทคนิคพิเศษอะไรในการดูของแท้-ปลอม?
          “สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘ความชำนาญ’ การตรวจสอบสินค้าต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ กระเป๋าแบรนด์เนมมีจุดสังเกตหลายอย่าง เช่น Date Code วัสดุที่ใช้ หัวซิป ลายเย็บ และหนังของกระเป๋า การสังเกตและศึกษาบ่อยๆ จะช่วยให้สามารถแยกของแท้ออกจากของปลอมได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ของปลอมในปัจจุบันมีการพัฒนาให้เหมือนของแท้มากขึ้น จึงต้องศึกษารายละเอียดอย่างต่อเนื่อง”

มีเคสไหนที่จำได้ไม่ลืม?
          “หากพูดถึงสินค้าที่จำได้แม่นเลย ส่วนตัวอิงประทับใจกับลูกค้าหลายท่านมากค่ะ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่น่ารักมากๆ ถ้าพูดถึงเคสที่มีจำนวนสินค้ามากที่สุดที่อิงเคยรับซื้อจากบ้านลูกค้า ก็น่าจะเป็นครั้งหนึ่งที่อิงไปตั้งแต่เที่ยงวัน จนเสร็จตอนตีสอง รวมแล้วมีสินค้าประมาณ 400 กว่าชิ้น จากคนเพียงคนเดียว ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าท่านนี้ไม่ใช่แม่ค้า แต่เป็นผู้ใช้จริง (user) ที่ไม่รู้ว่าจะนำของไปขายที่ไหนดี เนื่องจากหากฝากขายกับบางที่ อาจต้องรอนานกว่าจะได้รับเงิน แต่กับเรา ลูกค้าจะได้รับเงินทันทีตามข้อตกลงในสัญญา นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกนำสินค้ามาฝากขายกับเราค่ะ”

อุปสรรคและวิธีรับมือในธุรกิจนี้
          “อิงมองว่าทุกธุรกิจล้วนมีอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่เข้ามากระทบ แต่สำหรับอิง อุปสรรคไม่ใช่สิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้และปรับตัว ในมุมมองของอิง อุปสรรคไม่ใช่กำแพงที่ขวางทาง แต่เป็นความท้าทายที่ช่วยให้เราเติบโต ทุกครั้งที่เจอปัญหา อิงมองว่ามันเป็นเหมือนบันไดที่เราต้องก้าวขึ้นไป เพื่อให้เราแข็งแกร่งขึ้นและพัฒนาตัวเอง บางคนอาจมองว่าการเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นเรื่องไม่จำเป็น แต่เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าวันหนึ่งสิ่งที่เราเรียนรู้จะเป็นประโยชน์กับเราหรือไม่ อย่างตอนแรกอิงไม่เก่งภาษาเลย แต่เพราะอยากพัฒนาตัวเอง อิงจึงตั้งใจเรียนเพิ่ม จนตอนนี้สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ใครจะรู้ว่าในอนาคตจากการเป็นแม่ค้าแบรนด์เนม อิงอาจมีโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศก็ได้ การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับวิธีรับมือกับอุปสรรค อิงเชื่อว่า Mindset เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเรามีทัศนคติที่ดี มองอุปสรรคเป็นเพียงอีกหนึ่งความท้าทายในชีวิต และไม่ปล่อยให้มันมาหยุดเราได้ เราจะสามารถก้าวผ่านไปได้เสมอ ชีวิตของทุกคนล้วนต้องเจอปัญหา ไม่ว่าจะทำธุรกิจหรือไม่ แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างคือ เรากล้าที่จะเผชิญหน้าและลงมือทำหรือเปล่า ถ้าเรามีเป้าหมายและตั้งใจจริง ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ค่ะ”

การพัฒนาตัวเองในวงการนี้
          “อิงเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง และองค์กรอยู่เสมอ ทั้งเรื่องสินค้า คุณภาพและการบริการ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อดูแลลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นค่ะ”

แนวโน้มของตลาดสินค้าแบรนด์เนมในอนาคต
          “สินค้าประเภทนี้ยังคงได้รับความนิยมในระดับโลก แนวโน้มที่น่าสนใจคือสินค้าที่สามารถใช้งานได้จริง เช่น รองเท้าหรือเครื่องประดับ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ”

ธุรกิจนี้เปลี่ยนชีวิตคุณอิงอย่างไรบ้าง? จากวันแรกที่เริ่มต้นจนถึงวันนี้
          “ต้องบอกว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากค่ะ ย้อนกลับไปตอนเด็ก อิงเคยขายลูกชิ้นและน้ำเต้าหู้ ตั้งแต่อายุประมาณ 10-11 ขวบ เพราะคุณพ่อคุณแม่ของอิงมาทำงานในกรุงเทพฯ ตอนนั้นเราอยู่กับน้าที่นครศรีธรรมราช ก็ต้องช่วยทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่ขายของไปจนถึงทำน้ำเต้าหู้เองทั้งหมด จนมาถึงวันนี้แม้ชีวิตจะเปลี่ยนไปมาก สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ Mindset อิงเป็นคนที่วางแผนชีวิตตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ 10 ขวบ อิงก็เริ่มคิดแล้วว่า 15 จะเป็นยังไง 20 จะต้องมีอะไร พออายุ 25 หรือ 30 ต้องก้าวไปถึงจุดไหน อิงวาดภาพชีวิตออกมาเป็นแผนกว้างๆ ก่อน แล้วค่อยแบ่งเป้าหมายออกเป็นช่วงอายุ จากนั้นก็ไล่ลงมาทีละปี ทีละเดือน ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น เช่น ถ้าตั้งเป้าว่าต้องเรียนจบปริญญาโทด้านนิติศาสตร์ตอนอายุ 25 อิงก็จะลิสต์มหาวิทยาลัยที่ต้องเข้าไปเรียน แล้วค่อยวางแผนต่อว่าแต่ละคอร์สต้องใช้เวลากี่เดือน ทุกอย่างอิงจะวางแผนแบบละเอียดแบบนี้ แน่นอนว่าแผนที่วางไว้ไม่ได้สำเร็จทุกอย่าง บางอย่างพลาดไป แต่สำหรับอิง แค่เราทำได้ 5 อย่างจาก 20 อย่างที่ตั้งไว้ ก็ยังถือว่าเราเดินไปข้างหน้าเสมอ
          “สิ่งเหล่านี้อิงไม่ได้เรียนรู้จากใครโดยตรง แต่เป็นผลจากการซึมซับแนวคิดของคุณพ่อและคุณแม่ คุณพ่อเป็นคนให้ความสำคัญกับการศึกษา ส่วนคุณแม่รักในอาชีพแม่ค้า แม้ทั้งสองจะมีแนวทางต่างกัน แต่สิ่งที่ปลูกฝังให้อิงคือ ความอดทน ความพยายาม และการสร้างเส้นทางของตัวเอง อิงจึงยึดแนวคิดนี้มาตลอด และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอิงถึงมีเป้าหมายที่ชัดเจนและพยายามไปให้ถึงค่ะ”

หากย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองตอนเริ่มต้นธุรกิจ จะบอกอะไร?
          “จะบอกกับตัวเองว่า ‘มาถูกทางแล้ว’ อิงเคยเกือบล้มเลิกธุรกิจตอนที่เริ่มต้นไลฟ์ขายสินค้า เพราะมีผู้ชมเพียงไม่กี่คน แต่เมื่อพยายามต่อไปเรื่อยๆ ก็สามารถเติบโตได้ อิงเชื่อว่าหากทำด้วยความตั้งใจและอดทน สุดท้ายจะสามารถประสบความสำเร็จได้”

ถ้าต้องเลือกสินค้าแบรนด์เนมชิ้นหนึ่งที่เป็นตัวแทนของตัวเองคุณอิงจะเลือกอะไร และเพราะอะไร?
          “จริงๆ เป็นคำถามที่ตอบยากมากเลยค่ะ เพราะอิงชอบหลายแบรนด์ และเวลาชอบอะไร อิงไม่ได้ชอบแค่ตัวสินค้า แต่ยังศึกษาประวัติของแบรนด์และเจ้าของแบรนด์ด้วย อิงรู้สึกว่าแต่ละแบรนด์มีเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าสนใจแตกต่างกัน ถ้าต้องเลือกจริงๆ อิงลังเลระหว่าง Louis Vuitton กับ Chanel อิงชอบ Trunk หรือหีบเดินทางของ Louis Vuitton เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ สะท้อนถึงความเป็นนักเดินทางและการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ซึ่งคล้ายกับแนวคิดของอิงที่ชอบเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ส่วน Chanel อิงชอบความเรียบหรูและความคลาสสิกของแบรนด์ รวมถึงเครื่องประดับที่สามารถใส่ได้ทุกโอกาส ซึ่งสะท้อนตัวตนของอิงที่ชอบความหลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ แต่ถ้าพูดถึง Dior อิงก็ชอบอีกนะคะ (หัวเราะ) อิงอาจจะเป็นคนหลายใจหน่อย เพราะแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และทุกแบรนด์ล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจค่ะ”

อะไรคือสิ่งที่คุณอิงภูมิใจที่สุดในการทำธุรกิจนี้?
          “สิ่งที่อิงภูมิใจที่สุดคือการได้ดูแลลูกค้าและเห็นพวกเขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาซื้อสินค้า ฝากขาย หรือขายสินค้าให้เรา ทุกครั้งที่ได้รับคำชม คำขอบคุณ อิงรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก สิ่งที่อิงตั้งใจทำมาตั้งแต่แรกไม่เคยสูญเปล่า เพราะมันสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิงกับลูกค้า และนั่นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับอิงค่ะ”

หากต้องนิยาม I Love You Brandname by PreePree ใน 3 คำ จะเป็นคำว่าอะไร?‘
          “พร้อมดูแล”

ฝากอะไรถึงลูกค้าและแฟนๆ ที่ติดตาม I Love You Brandname by PreePree
          “อิงขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ให้การสนับสนุน และจะตั้งใจดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดต่อไป เพราะลูกค้าคือแรงบันดาลใจและพลังที่ทำให้อิงมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อิงจะยังคงมอบบริการที่จริงใจและดีที่สุดให้กับทุกคนค่ะ”

Photo By : Pumkiat
Author By : Arunlak

SHARE