counters
hisoparty

HISO WE LOVE : ส่งต่อ กำลังใจ ให้รู้ว่า คนไทย ไม่ทิ้งกัน

3 years ago

         จากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบมากมายทาง HiSoParty ในฐานะสื่อมวลชนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจของคนในสังคมสู่บุคลากรทางการแพทย์ จึงได้จัดทำ โครงการ HISO We Love ขึ้น เพื่อนำเงินไปซื้อชุดเกราะสู้โควิด PAPR (Powered Air Purifying Respirator) หรือ ชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง ในสถานพยาบาลที่มีความเสี่ยงสูง และได้ทำการส่งมอบไปแล้วนั้น สำหรับสิ่งที่เราได้ทำ แม้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่มอบคืนสู่สังคมแต่เราจะไม่หยุดที่จะทำสิ่งดีๆ เหล่านี้ต่อไป
         ด้วยเหตุนี้ ทาง HiSoParty จึงอยากนำเสนอเรื่องราวดีๆ ที่หลายๆ องค์กรหรือ บุคคล ได้ทำประโยชน์ต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ กำลังทรัพย์หรือ กำลังใจ เพื่อเป็นการสร้างสรรค์เรื่องราวแห่งการให้ เพื่อเป็นกำลังใจ และพลังดีๆ ให้กับสังคมไทยในตอนนี้ ให้พร้อมก้าวผ่านเรื่องราวร้ายๆ ไปด้วยกันเราหวังเพียงเรื่องราวดีๆ เหล่านี้ จะสร้างพลังบวกให้เกิดขึ้นในสังคมไทย...

 คุณนวลพรรณ ล่ำซำ 

         “สำหรับแป้ง โควิด-19 เป็นเหมือน Wake up call ที่ส่งมายังโลกของเรา ถือเป็นเรื่องใหม่และไม่ได้เกิดเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจบไป เลยตกผลึกความคิดได้ว่าสิ่งแรกที่เราควรลงมือทำในฐานะคนไทยคนหนึ่ง คือ การช่วยเหลือประชาชนในสังคมไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้ ตั้งแต่ที่เจอวิกฤตระลอกแรก ที่เราตั้ง ‘ครัวมาดาม’ ภายใต้แนวคิด ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกันโดยครัวชุมชนทำอาหารแจกจ่ายฟรีแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่คลองเตย จนไปถึง 25 เขตในกรุงเทพฯมาถึงระลอกที่สอง เราปรับรูปแบบความช่วยเหลือเพิ่มในการส่งทีมอาสากล้าใหม่ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและการติดตั้งซุ้มฆ่าเชื้อ ด้วยเรายึดถือว่าเราเป็นธุรกิจที่ช่วยเหลือเยียวยาเวลาเกิดภัยไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ เยียวยา สงเคราะห์ ส่งเสริมสนับสนุน ด้านการสร้างอาชีพ ด้านกีฬาเพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคม รวมถึงการช่วยเหลืองานด้านสาธารณประโยชน์ต่างๆ จนเมื่อวันเกิดครบ 55 ปี จึงตัดสินใจก่อตั้ง ‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ขึ้น แป้งไม่มีเงินมาก แต่อยู่ในจุดที่กำลังดีมีความสุขที่พอดี จึงอยากแบ่งปันด้วยความตั้งใจนี้ไปยังเพื่อนคนอื่นๆ ในสังคม ด้วยหวังให้มูลนิธิเป็นสะพานบุญรวบรวมน้ำใจจากคนตัวเล็กตัวน้อย กลายเป็นพลังที่ช่วยเหลือสังคม ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งมา เราก็ทำงานทุกวัน ด้วยภารกิจหลายด้าน ด้านการแพทย์ การส่งเสริมอาชีพ การศึกษา และที่จะรอช้าไม่ได้คือการเดินหน้าช่วยวิกฤตโควิด-19

         “และการเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดตั้ง ศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation 4 มุมเมืองทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มมาจากเราไปช่วยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยของรพ.รามาธิบดี ทำให้เห็นความจำเป็นของการแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว เพื่อลดการกระจายของเชื้อ โดยทั้ง 4 เขต ได้แก่ บึงกุ่ม, วังทองหลาง, ราษฎร์บูรณะ และภาษีเจริญ รวมถึงการสนับสนุนส่งเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้จำเป็นแก่ศูนย์พักคอยในกรุงเทพฯ 10 แห่ง ไปจนถึงโรงพยาบาลสนาม 20 จังหวัดทั่วประเทศ เราพร้อมหมุนตัวแบบ 360 องศาในการช่วยเหลือ บรรเทา เยียวยาผู้คนและสังคมไทย”

         “แป้งคิดว่า ณ ตอนนี้อาชีพที่ต้องส่งกำลังใจให้มากที่สุด คือ เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่เป็นหน่วยรบด่านหน้า ด่านแรกที่ต้องคอยรับมือเกือบสามปีมาแล้วที่ทุกท่านต้องต่อสู้มาอย่างหนัก ทั้งการดูแลผู้ป่วย การดูแลตัวเองให้ปลอดภัย แป้งนับถือใจทุกท่านเป็นอย่างมาก และแป้งเชื่อว่า อาจมีสักเสี้ยวนาทีที่ย่อท้อแต่ทุกท่านไม่เคยถอยออกมาสักก้าวในการต่อสู้กับสงครามวิกฤต ขอส่งกำลังใจให้ทุกท่าน ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ค่ะ”

         “มีอยู่ประโยคหนึ่งที่แป้งคิดว่า เหมาะกับสถานการณ์เช่นนี้ “It you can’t fly, then run, if you can’t run, then walk, if you can’t walk, then crawl, but whatever you do, you have to keep moving forward.” ของ Martin Luther King Jr. ซึ่งแปลว่า “ถ้าคุณบินไม่ได้ก็...วิ่ง ถ้าคุณวิ่งไม่ได้ ก็...เดิน ถ้าคุณเดินไม่ได้ จง...คลาน แต่ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม คุณจะต้องก้าวไปข้างหน้าต่อไป” วิกฤตนี้มันไม่เลือกว่าคุณเป็นใคร แป้งจึงขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนสู้ต่อไป เพื่อเราต้องก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอค่ะ สู้ ๆ ค่ะ”

คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี

          “บิ๋งได้บริจาคชุดป้องกันที่มีระบบฟอกอากาศในตัว (PAPR) รวมถึงชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) จำนวน 2,000 ชุด และแอลกอฮอล์ทำความสะอาดจำนวน 2,000 ลิตร ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่ออกภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ฯลฯ มูลค่ารวมร่วม 2 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนปฏิบัติภารกิจสู้โควิด-19 ที่กำลังเป็นวิกฤตในขณะนี้

          “ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง บิ๋งขอชื่มชม และขอขอบคุณในความทุ่มเท และเสียสละของเหล่าฮีโร่ด่านหน้าทุกท่าน จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรด่านหน้าที่ให้การรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ให้ได้รับความปลอดภัยจากการทำงาน เพื่อแทนความห่วงใยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละในการช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่ย่อท้อ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่านค่ะ

          “บิ๋งอยากให้กำลังใจคนไทยทุกคน และอยากให้ช่วยกันการ์ดไม่ตก เพราะเราเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือ ร่วมใจของพวกเราทุกคนจะช่วยนำพาให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันโดยเร็วเพื่อให้การใช้ชีวิตได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งค่ะ”

คุณวิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์

              “ตั้งแต่เกิดวิกฤต โควิด-19 ผมให้ความสำคัญกับสุขภาพ และชีวิตความปลอดภัยของทีมงานในองค์กรเป็นอันดับแรก เราลงทุนกับเทคโนโลยี ที่จะช่วยให้พนักงานสามารถ Work From Home ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ พยายามประสานงานเพื่อให้ทีมงานทุกคนได้เข้าถึงวัคซีน มีการป้องกันไม่ให้เกิด Cluster ขึ้นในโรงงานมีการเว้นระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ไลน์การผลิต และโรงอาหาร และจากมาตรการล็อคดาวน์ประเทศ ทำให้ยอดขาย และงานของเราลดน้อยลง เราจึงมีการปรับการบริหารจัดการแบ่งหน้าที่ใหม่ ปรับความรับผิดชอบใหม่ เพื่อให้ทีมงานทุกคนยังสามารถทำงานได้ตามปกติ และยังคงมีรายได้สามารถกลับไปดูแลครอบครัวได้เช่นเดิม เมื่อทุกคนปลอดภัย มีงานทำ มีรายได้ บริษัทก็สามารถรักษาความมั่นคงไว้ได้เช่นกัน

             “ในการทำธุรกิจของผม ผมไม่ได้มองแค่ว่ามันคือธุรกิจ เพราะโปรเจคต์ที่เราทำนั้นมันแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ วิสัยทัศน์ของพวกเราวีนายน์จึงไม่ใช่ต้องการเป็นแค่ผู้ผลิตสายไฟฟ้าทางเลือกอีกแบรนด์หนึ่ง แต่เป็นผู้ผลิตที่มีการคัดสรรวัตถุดิบ รวบรวมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในยุคปัจจุบัน และอุปกรณ์ห้องทดสอบมาตรฐานระดับสากล ผมต้องการจะสร้างองค์กรที่ตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ โดยไม่ได้คิดแค่เพียงมุมมองทางธุรกิจ แต่ต้องการที่จะยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศไทย ให้เทียบเท่าระดับสากลอีกด้วย

             “ในส่วนของภาคสังคม ตอนนี้เรามีโครงการที่ชื่อว่า Venine We Share ซึ่งเราตั้งใจว่าจะแบ่งปัน ห่วงใย และให้ความช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ในวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ ทางโครงการได้ทำการ
มอบเครื่องช่วยหายใจแก่ทางมูลนิธิรามาธิบดี เตียงสนามอุปกรณ์ป้องกัน อาหาร และเครื่องใช้จำเป็น ให้กับโรงพยาบาลแคมป์คนงาน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ หลายแห่ง ส่วนด้านชุมชนเองก็สำคัญ ฐานการผลิตสายไฟฟ้าของเราตั้งอยู่ที่ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ทางวีนายน์เราได้มีการเข้าช่วยเหลือสนับสนุนเตียง และอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลท้องถิ่น ไปจนถึงการสนับสนุนสายไฟฟ้าสำหรับสร้างอาคารศูนย์พักพิงผู้ป่วยในพื้นที่

            “และช่วงนี้เรามีการทำโปรเจคต์สร้างห้อง ER Covid-19 ให้กับโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ ซึ่งห้องนี้มีความพร้อมสำหรับดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีส้ม ให้ได้รับการรักษา ลดความรุนแรงเหลือระดับสีเขียวจนสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยตั้งใจเป็นโครงการนำร่องต้นแบบ ซึ่งหากมีโรงพยาบาลภาครัฐแห่งไหนที่ยังขาดแคลนและทางองค์กรเอกชนหรือหน่วยงานใดๆ ที่สนใจมีจิตศรัทธาอยากช่วยเหลือ สามารถนำต้นแบบนี้ไปดำเนินสร้างเพื่อช่วยเหลือได้เลย เราตั้งใจให้โครงการ Venine We Share นี้เปรียบเสมือนโครงข่ายที่ได้มีส่วนช่วยส่งพลังความห่วงใย ส่งพลังใจ ให้คนไทยสามารถลุกขึ้นยืนและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรงโดยไวอีกครั้ง”

คุณนุชนาถ ระวีแสงสูรย์

           “ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนตัวได้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบากของผู้คนที่กระทบต่อการใช้ชีวิต รวมถึงการขาดแคลนเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ เราจึงได้มอบเครื่องช่วยหายใจและเครื่องวัดความดัน รวมถึงเครื่องวัดออกซิเจน ให้กับโรงพยาบาลเลิดสิน, โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์, โรงพยาบาลศรีธัญญา นอกจากนี้ยังได้นำอาหารข้าวกล่องไปมอบให้กับ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร, โรงพยาบาลศรีธัญญา และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กับบริษัทของเราด้วย เพื่ออย่างน้อยจะช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ ของพวกเขาไปได้บ้าง

          “ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง อยากขอขอบคุณ บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านจากส่วนลึกของหัวใจ ที่ได้เสียสละแรงกายแรงใจ รวมถึงเสียสละเวลา และความสุขส่วนตัวเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19

          “และอยากเป็นกำลังให้กับคนไทยทุกคน ขอให้สู้ๆ อย่าท้อแล้วเราจะผ่านพ้นมันไปด้วยกัน สักวันสิ่งดีๆจะกลับมาค่ะ”

คุณณัฐพล จุฬางกูร

            “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะประธานบริหาร Summit Windmill Group (กลุ่ม Summit Corporation) ได้ส่งน้ำใจให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนองค์กรหน่วยงาน และประชาชนที่เดือดร้อน ตั้งแต่เกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรค Covid-19 ระลอกที่หนึ่ง ในปี 2563 ไม่ว่าจะเป็นการบริจาค ชุด PPE แบบซักได้ จำนวน 100 ชุด ชุด PAPR สำหรับป้องกันการติดเชื้อ สำหรับแพทย์ จำนวน 2 ชุดให้กับโรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการมอบเงินสดช่วยเหลือมูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 50,000 บาท บริจาคเงินสดช่วยเหลือมูลนิธิสงฆ์ จำนวน 50,000 บาท มูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อผู้ป่วย Covid จำนวน 300,000 บาท บริจาคเงินสดให้มูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์ จำนวน 50,000 บาท บริจาคเงินสดให้มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ ช่วยเหลือเด็กที่สูญเสียบิดามารดา ขาดญาติมิตร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 ในรูปแบบของครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว เพื่อให้เด็กสามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม จำนวน 50,000 บาท

            “ต่อมาเมื่อมีโควิดระลอกใหม่ ปี 2564 ก็ได้ส่งชุดยังชีพข้าวสาร อาหาร แห้ง ของใช้จำเป็น จำนวน 122 ชุด ให้กับชุมชน ที่ อ. บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงส่งทีมงาน เข้าไป ทำการตรวจ Covid-19 ให้กับ พระสงฆ์ ที่วัดชวด ลากข้าว พร้อมมอบปัจจัยและอาหารที่จำเป็นนอกจากนั้นยังมีการกระจายรายได้ ด้วยการสั่งอาหารกล่องจากร้านอาหารเล็กๆ จำนวน 700 กล่อง เพื่อมอบให้กับ ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการกักตัวและติด Covid 19 ระหว่างรอเตียงที่ชุมชนอยู่เจริญเขตดอนเมือง (วันละ 100 กล่อง 7 วัน) และได้ร่วมมอบ ชุดยังชีพร่วมกับ คุณพัชราภา ไชยเชื้อ คุณประธานวงศ์ พรประภา และ คุณศุภชัย ศรีวิจิตร จำนวน 2,000 ชุด นอกจากนั้น ยังมอบเงินส่วนตัว ให้มูลนิธิราชานุกูล ครั้งละ 100,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง และมอบเงินสด จำนวน 29,999 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนซื้อชุด PAPR กับ นิตยสาร HiSoParty จนถึง ณ วันนี้ เรายังคงตั้งใจ เดินหน้าส่งมอบน้ำใจช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ในยามวิกฤตแบบนี้ต่อไป”

คุณภูภวิศ กฤตพลนารา

           “ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทาง ISSUE THALAND ได้ตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้มาโดยตลอด จึงได้มีการร่วมส่งกำลังใจให้กับองค์กรต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาปัญหาที่เกิดขึ้นไปได้บ้างไม่มากก็น้อยโดยได้มีการร่วมบริจาคเงินให้แด่ ‘มูลนิธิ ภัทรมหาราชานุสรณ์’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ฝ่าวิกฤตโควิดนี้ไปให้ได้ นอกจากนี้ในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ นิมนต์คณะสงฆ์ทุกรูป แม่ชี จิตอาสา วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยชุด Rapid Antigen Test Kit ที่ทางเราได้จัดถวาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเรายังได้จัดการ LIVE ขายสินค้าของ ISSUE Thailand ในราคาพิเศษ เพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรมช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 ต่าง ๆ แบบ 100% โดยไม่หักต้นทุนและทาง ISSUE THALAND ยังได้มีการส่งมอบ หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องตรวจวัดอ็อกซิเจนที่ปลายนิ้วให้แก่กลุ่ม ‘เส้นด้าย’ สำหรับนำไปช่วยผู้ประสบภัยโควิด-19 ที่รอคอยความช่วยเหลืออีกด้วย

           “เราอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้คนที่ยากลำบากกับวิกฤตนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอยากเชิญชวนทุกๆ คน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู่ครั้งนี้ ซึ่ง ISSUE THALAND ตั้งใจจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”

คุณคณชัย เบญจรงคกุล

           “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ หากเรามีโอกาสได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ คิดพร้อมที่จะทำเท่าที่เราจะทำได้เลยครับ ที่ผ่านมามีหลายๆ คนส่งข้อความมาทางอินสตาแกรม ขอความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ซึ่งคิดจะช่วยเหลือในลักษณะส่งเป็นของ หรืออุดหนุนสินค้าของเขาครับและเมื่อไม่นานมานี้ คิดได้ทราบข่าวจากเพื่อนว่ามีชุมชนชาวมุสลิม (ชุมชนโสณมัย โรงแก้ว และเจริญกรุง) ติดโควิดกันเยอะมาก ประมาณ 600 ครอบครัว คิดจึงได้ร่วมนำถุงยังชีพกับข้าวสารอย่างละ 600 ชุดไปมอบให้ โดยมีเพื่อนๆ นำอาหารแห้งที่จำเป็นมาร่วมเพิ่มเติม เพื่อให้คนในชุมชนที่ต้องกักตัวสามารถอยู่ได้นานที่สุดอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าสองอาทิตย์ และตรงไหนที่ขาดเหลืออะไรคิดก็ช่วยไปทีละเล็กทีละน้อย ทำเท่าที่เราทำไหว เท่าที่เรามีกำลังจะทำได้ เพื่ออย่างน้อยจะได้มีอะไรดีขึ้นบ้าง หรือในบางคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ก็เพียงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ดี

          “และที่สำคัญต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านมากๆ เลยครับ เพราะทุกท่านเหนื่อยกันมาแบบสุดๆ ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ซึ่งกินเวลาเกือบสองปี ขนาดเราอยู่เฉยๆยังเหนื่อยกับความเครียดความกดดันเลย แต่ว่าพวกคุณหมอ และพยาบาลทุกคน ต้องดูแลคนไข้ และต้องระวังตัวเองด้วย คิดจึงอยากส่งกำลังใจให้ครับเราทุกคนซาบซึ้งกับสิ่งที่พวกเขาเสียสละครับและคิดหวังว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านจะได้รับการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
          “ในส่วนคนไทยทุกคน ไม่ว่าประกอบธุรกิจหรือทำอาชีพไหน ทุกคนได้รับผลกระทบหมดจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป คนที่ได้รับผลกระทบน้อยก็ไปช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบมาก คิดอยากให้ทุกคนอดทน และรอวันที่เราจะพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ”

พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร

           “ด้วยขณะนี้ได้เกิดวิกฤตในประเทศ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ซึ่งแพทย์ทั้งหลายกำลังช่วยกันทำงานจนรัดตัวอย่างมาก ส่วนตัวแยมเองในฐานะที่เป็นหมอ จึงได้เลือกออกมาทำงาน ในหน่วยรับวัคซีนต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรีค่ะ โดยเน้นให้คำปรึกษาสำหรับประชาชนที่มีโรคประจำตัว แพ้ยาหรือวัคซีน และปัญหาด้านอื่นๆ ค่ะ เพราะหมอคิดว่า ในการมีส่วนร่วมเล็กๆ นี้ จะสามารถแบ่งเบาภาระที่ยิ่งใหญ่ให้เบาบางไปได้ไม่มากก็น้อย

          “ซึ่งในฐานะคนไทย และในฐานะแพทย์ด้วยกัน แยมขอส่งทั้งแรงกาย แรงใจเพื่อให้งานของพวกเรา สำเร็จลุล่วงไปในส่วนต่างๆ เพื่อประชาชนและสถานการณ์โรคระบาดขณะนี้ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ

          “และแยมอยากขอให้คนไทยทุกท่านมาร่วมมือกันเพื่อให้รอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ทั้งการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงเพื่อคนรอบข้าง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ได้เห็นหลายๆ ท่าน ได้ออกมาช่วยเหลือสังคมตามความสามารถ และกำลังของตนเอง อย่างไรคนไทยก็ต้องผ่านพ้นไปได้ค่ะ”

คุณสุรเดช พินิวัตร์

          “ผมรู้ว่าการที่เราได้รับมันเป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะตัวผมเองเคยเป็นผู้รับมาก่อน ซึ่งสิ่งที่ผมได้มอบให้กับคนไทยหลายๆ คนที่เดือดร้อนจากโควิด-19 ในครั้งนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษกับ
เขามากๆ และผมเชื่อว่าจะทำให้พวกเขามีความสุขได้ครับ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้คิดโครงการนี้ขึ้นมาชื่อว่า #บาสเด็กอ้วนชวนอิ่มท้อง ซึ่งผมได้นำรายได้จากการขายเสื้อ Gameroom addict และร่วมกับกลุ่มแมะๆ (ชื่อเรียกแฟนคลับ) โดยผมได้ไปมอบอาหารกล่องจำนวน 500 กล่อง แก่เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์เพื่อแทนคำขอบคุณ ณ มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และมูลนิธิบ้านพระพร และผมได้ลงพื้นที่เพื่อแจกอาหารกล่องให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและ วัดหัวลำโพงครับ สิ่งที่ผมทำขึ้นมาเหล่านี้อาจจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆแต่ผมก็หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือทุกคนได้ครับ

          “และผมอยากจะเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกๆ คน ผมเข้าใจว่านี่เป็นศึกหนักมากที่ทุกคนเผชิญ เพราะต้องอยู่ด่านหน้า ผมคิดว่าเราคนไทยทุกคนพร้อมส่งกำลังใจให้คุณหมอ และพยาบาลอย่างเต็มเปี่ยม ขอให้ทุกคนสู้ๆ ขอให้ปลอดภัย และป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดนะครับ

          “สุดท้ายอยากบอกกับคนไทยทุกคน ให้สู้ๆ นะครับ ขอให้เราทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้เร็วๆ ด้วยกัน เพื่อทุกอย่างจะได้กลับมาเหมือนเดิม ได้ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม และแม้ว่าตอนนี้มันยังไม่ได้ผ่านพ้นไป ก็ขอให้ทุกคนพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ”

Author By : Arunlak

SHARE    

SHARE