สุดยอดแห่งความวิจิตรงดงามของ Franck Muller ด้วยกลไกเวลา และอัญมณีล้ำค่ากับนาฬิการุ่น Double Mystery ตัวเรือนไวท์โกลด์ 18k ประดับแซฟไฟร์ ทับทิม ซาโวไรต์ และเพชรทรงบาร์แก็ตต์มาพร้อมสายหนังจระเข้สีแดง และ สีน้ำเงิน สวยงามคลาสสิก พิเศษสุดด้วยฟังก์ชั่น ‘Mystery’ (มิสเทอรี) ซึ่งแสดงเวลาโดยไร้ซึ่งตัวเลข และเข็มชี้ มีเพียงแผ่นดิสก์ 2 แผ่นที่ค่อยๆ หมุนไปตามเครื่องหมายประดับอัญมณีล้ำค่าหลากชนิด ดิสก์วงในแสดงชั่วโมง ในขณะที่ดิสก์วงนอกแสดงนาที ซึ่งแผ่นดิสต์สองชิ้นบนหน้าปัดนี้หมุนด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างง่ายดาย
BOVET รุ่น The Virtuoso VIII Chapter Two สะดุดตาด้วยหน้าปัดตกแต่งลวดลาย Côtes de Genève ทั้ง 2 ด้านอย่างประณีต อวดการทำงานของจักรกล Flying Tourbillion ที่มองเห็นทั้งสองด้าน พร้อมหน้าปัดย่อยแสดงวันที่แบบ Big Date และบอกพลังงานสำรองบนพื้นหน้าปัดที่ทำมาจาก Aventurine ตัวเรือนผลิตจากทองคำชมพูแท้ 18 เค ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 39 เรือนเท่านั้น
นาฬิกา Super Chronomat คือ นาฬิกาในตระกูล Chronomat ที่โดดเด่นที่สุดของ Breitling ซึ่งเป็นนาฬิกาสปอร์ตที่ถูกเพิ่มพลัง และความอเนกประสงค์ไปจนหรูหราตามแบบฉบับดั้งเดิมของ Chronomat ด้วยหมุดป้องกันกระจกหน้าปัด Sapphire ที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาสามารถถอดสลับ ตำแหน่งกันได้ ทำให้สามารถใช้งานสำหรับจับเวลาถอยหลังได้ พร้อมด้วยตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร โดยคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญได้แก่ ขอบหน้าปัด Stainless Steel พร้อมหลักหมุด Ceramic เป็นครั้งแรกในนาฬิกา Chronomat รวมทั้งสายยาง Rouleaux หรือสายโลหะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมกับตัวยึดสายแบบบาน พับปีกผีเสื้อ โดยสายยางรุ่นใหม่ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการฉีดขึ้นรูปที่ทันสมัยและมีมิติอันน่าทึ่ง
Author By : Arunlak
