counters
hisoparty

อาหาร....ทำร้ายฟัน

6 years ago

เรามักจะถูกสอนอยู่เสมอว่า การกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ เราจะทำอย่างไรให้มีฟันที่แข็งแรง และจำนวนครบ ไว้เคี้ยวอาหาร 5 หมู่นั้นให้ละเอียดและดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ตลอดช่วงอายุต่าง ๆ โดยเฉพาะในวัยชรา การดูแลรักษาฟันในช่องปากให้ครบและอยู่ในสภาพดี จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าฟันจะมีหน้าที่บดเคี้ยวอาหาร แต่หากเราทานอาหารผิดประเภท อาหารต่าง ๆ เหล่านั้น ก็จะสามารถทำลายฟันให้มีอายุสั้นกว่าที่ควรจะเป็นได้ HiSoParty ครั้งนี้ หมอก็จะเขียนถึงอาหารหลากหลายชนิดที่อาจจะทำร้าย หรือทำลายฟันของเรา หรือส่งผลต่อสุขภาพจนมีผลทำให้ฟันเสียก่อนวัยอันควร ท่านผู้อ่านก็จะได้รับความรู้ นำไปปรับใช้เลือกอาหารและกินอาหารอย่างถูกต้องต่อไป



ของเปรี้ยว
น้ำมะนาว ปัจจุบันนั้น สาวๆ นิยมดื่มน้ำมะนาวกันมาก เพราะเชื่อว่า น้ำมะนาวจะช่วยล้างพิษในท้อง ทำให้ผอมบ้าง หรือช่วยป้องกันโรคมะเร็ง จึงนิยมทานน้ำมะนาวตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นมะนาวสด มะนาวผสมน้ำโซดาเย็น น้ำมะนาวนั้น จะมีค่าความเป็นกรดมาก มีผลละลายผิวฟันได้อย่างร้ายกาจ ทำให้ฟันละลายหรือกร่อนจนมีผลให้เสียวฟัน หรือฟันตายได้ในที่สุด จึงควรระมัดระวัง การทานน้ำมะนาวเข้มข้น โดยการบ้วนน้ำสะอาดทันที หรือบ้วนน้ำนมซักแก้วก็ได้ ฟันก็จะไม่กร่อน หรือกร่อนน้อยลง นอกจากนี้ต้องไม่แปรงฟันทันทีหลังดื่มน้ำมะนาว เพราะผิวฟันนั้นยังนิ่มจากการสัมผัสกรดจากน้ำมะนาว เมื่อแปรงฟันก็ยิ่งทำให้ฟันสึกง่ายได้ น้ำมะนาวยังอาจพบได้มากในเมนูอาหารไทย พวกยำ ลาบ หรือต้มยำกุ้ง การรับประทานอาหารดังกล่าว จึงต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการดื่มน้ำมะนาว

ส้มตำ ส้มตำนั้นเป็นเมนูยอดฮิตของสาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก แต่ในส้มตำนั้น จะมีส่วนประกอบเครื่องปรุงจากน้ำมะนาว ก็จะมีผลคล้ายๆ การดื่มน้ำมะนาว ต่างกันที่ มะนาวในส้มตำ มีความเข้มข้นน้อยกว่าในน้ำมะนาวสด หลังทานส้มตำก็ความบ้วนน้ำตาม และยังไม่ควรแปรงฟัน เพราะจะทำให้ฟันสึกกร่อนมากขึ้นได้

ผลไม้รสเปรี้ยวจัด ได้แก่ ผลไม้ตระกูลส้ม (ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ส้ม grapefruit) มะยม มะขามป้อม สัปปะรด มะม่วงดิบ กะทกรก ในช่วงฤดูผลไม้เปรี้ยวออกนั้น จะพบผู้ป่วยที่เสียวฟันมาหาทันตแพทย์มากขึ้น แต่พอหมดฤดูกาล อาการก็จะลดลง ฟันก็จะได้พัก เกิดการทดแทนแร่ธาตุที่สูญเสียไปโดยน้ำลายได้ ทำให้ฟันมีอาการเสียวฟันลดลง แต่หากมีการทำลายเคลือบฟันต่อทุกๆ ฤดูกาล ฟันก็จะกร่อนและเกิดปัญหาได้เช่นกัน

น้ำส้มสายชู เรามักจะทานน้ำส้มสายชู จากส่วนผสมของเครื่องปรุง ได้แก่ พริกน้ำส้ม น้ำสลัดใส เป็นต้น น้ำส้มสายชูมีความเป็นกรดสูง มีผลทำให้ฟันกร่อนได้เช่นกัน

น้ำอัดลม น้ำอัดลมคือน้ำหวานอัดโซดาหรือกรดคาร์บอนิก จัดว่ามีความเป็นกรดสูงมาก เมื่อทานและสัมผัสฟันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้ฟันกร่อนอย่างรวดเร็ว มีการศึกษาพบว่า เด็กวัยรุ่นที่ทานน้ำอัดลมมากกว่าสามกระป๋องต่อวัน จะพบว่าเด็กมีภาวะเคลือบฟันถูกทำลาย และเป็นโรคอ้วน น้ำอัดลมนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังไม่ดีต่อฟันด้วย หากอยากทานน้ำอัดลม ควรทานในมื้ออาหาร เพราะอาหารจะทำให้ความเป็นกรดลดลงได้ การทานน้ำอัดลมน้ำตาลต่ำ ก็ยังเสี่ยงต่อการทำลายเคลือบฟันจากกรดในน้ำอัดลมเช่นกัน แม้ว่ามันจะไม่มีน้ำตาล

ผลไม้ดอง ผักดอง กิมจิ พบได้ว่า มะม่วงดอง มะยมดอง ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้เปรี้ยวตากแห้ง บ้วยเค็ม ผักกาดดองไทย ผักกาดหมักกิมจิ จัดว่ามีความเป็นกรดสูง สามารถละลายผิวฟันได้ จากความเป็นกรดรอบผลไม้ดอง ต่างๆ นี้ อาหารต่างๆ เช่น แหนมต่างๆ ไส้กรอกอีสาน ก็มีความเปรี้ยว และเป็นกรดสูง มีผลทำให้ฟันสึกได้เช่นกัน

ของหวาน
ลูกอมเหนียวหนึบชนิดเคี้ยวและชนิดอม ขนมเหนียวนี้ ได้แก่ เม็ดอมต่างๆ ท็อฟฟี่ คาราเมล เยลลี่ น้ำตาลกวนเหนียว (รวมถึงผลไม้กวนต่างๆ) จะติดฟันได้ เมื่อขนมเหนียวติดฟัน น้ำตาลในขนมเหนียว จะเป็นอาหารของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดฟันผุ เชื้อโรคจะกินน้ำตาลและขับกรดออกมาละลายฟัน มีผลให้เกิดฟันผุมากมายในเวลาเดียวกัน หลังทานลูกอมเหนียวจึงควรแปรงฟันและทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟัน กำจัดเอาเศษขนมเหนียวออกให้ได้ 

ลูกอมชนิดแข็งนั้น ส่วนใหญ่จะมีน้ำตาลมาก ทำให้ฟันผุได้ง่าย และหากลูกอมรสเปรี้ยว ก็มักจะมีความเป็นกรดด้วย ยิ่งทำให้ฟันผุง่าย นอกจากนี้ หากอมแล้วเคี้ยว ลูกอมที่แข็งอาจทำให้ฟันแตกได้ หรือทำให้เกิดโรคฟันร้าวขึ้น หากทานลูกอมควรเลือกชนิดที่ปราศจากน้ำตาล (มักจะเป็นชนิดที่มีน้ำตาลเทียม)

น้ำดื่มรสหวาน ได้แก่ น้ำชาเขียวเย็น น้ำสมุนไพรหวาน น้ำดื่มต่าง ๆ ที่ผสมน้ำตาล การทานน้ำตาลระหว่างมื้ออาหารมากๆ นอกจากจะทำให้ฟันผุแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน คนที่มีภาวะโรคเบาหวานนั้น เหงือกจะไม่แข็งแรง แผลจะหายยาก จะมีผลให้เป็นโรคเหงือกง่าย ฟันโยก และสูญเสียฟันก่อนเวลาอันควร

เครื่องดื่มชูกำลัง ปัจจุบัน เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นที่นิยมมากขึ้นในคนทำงาน คนขับรถ นักกีฬา หรือคนที่นิยมการออกกำลังกาย เครื่องดื่มชูกำลังเช่น กระทิงแดง คาราบาวแดง ลิพโพ หรือเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาพวก Gatorade, Red Bull ก็เริ่มเป็นที่นิยม เครื่องดื่มพวกนี้มีความเป็นกรดสูงพอๆ กับ น้ำอัดลม และมีน้ำตาล ทำให้เกิดการทำลายฟันได้

อื่นๆ
กาแฟ ชานมไข่มุก เครื่องดื่มทั้งสองจะมีคาเฟอีน มีผลทำให้น้ำลายออกน้อย ในช่องปากจึงมีความเป็นกรดสูงขึ้น เกิดสภาพที่ทำให้ฟันผุง่ายขึ้น การทานกาแฟหลายแก้วต่อวัน จึงต้องทานน้ำให้มากขึ้นเพื่อให้ในช่องปากชุ่มชื้นตลอดเวลา ส่วนน้ำชานมนั้น จะมีน้ำตาลสูง จะทำให้เกิดฟันผุได้

บุหรี่ แม้จะไม่ใช่อาหาร แต่ต้องยกขึ้นมากล่าวถึง เพราะบุหรี่มีผลให้ฟันผุเกิดโรคเหงือกในช่องปาก รวมทั้งอาจมีผลให้เกิดโรคมะเร็งได้ บุหรี่ไม่ดีต่อช่องปาก ปอด และร่างกาย บุหรี่ทำให้ฟันดำและน้ำลายน้อย ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

ช็อคโกแลต ชีส เป็นอาหารที่กินได้ ไม่ทำให้เกิดโรคฟันผุ แต่ควรเป็นช็อคโกแลตที่มีน้ำตาลน้อย หรือ Dark chocolate และควรทานในมื้ออาหาร

ยาลดความอ้วน มีผลทำให้น้ำลายออกน้อย ในช่องปากจึงมีความเป็นกรดสูงขึ้น เกิดสภาพที่ทำให้ฟันผุง่ายขึ้น

จะทำอย่างไร หากฟันเสียหาย หรือถูกทำลายไปบ้างแล้วตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าอาหารบางชนิดที่กล่าวมา สามารถทำร้ายหรือทำให้ฟันอ่อนแอลงได้ ประการแรกคือต้องรีบหยุดอาหารที่ส่งผลเสียดังกล่าวข้างต้น
แล้วรีบปรึกษาทันตแพทย์ ยาสีฟันหลายๆ ชนิด สามารถลดอาการเสียวฟันได้ เราสามารถซื้อมารักษาฟันเบื้องต้นได้ ทันตแพทย์สามารถเคลือบฟัน หรือบูรณะฟันที่เสียไปให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมได้ รีบรักษา ดีกว่าปล่อยให้โรคลุกลามครับ

STORY BY รศ. ทพ. เฉลิมพล ลี้ไวโรจน์
ประธานหลักสูตรทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม และทันตกรรมรากเทียม
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

SHARE